🐋
การซื้อขายวาฬ

อภิธานศัพท์แนวคิดการเทรดพื้นฐาน: ภาพรวมทั้งหมดในที่เดียว

อภิธานศัพท์นี้รวบรวมคำศัพท์หลัก
ที่คุณจะเห็นซ้ำแล้วซ้ำอีกในหลักสูตรการเทรดของ BCWhale

เป้าหมายที่นี่ ไม่ใช่ เพื่อสร้างพจนานุกรมที่สมบูรณ์ แต่เพื่อ:

  • เน้น แนวคิดหลัก ที่ใช้ใน การเทรด,
  • อธิบายด้วยภาษาที่ชัดเจนและเรียบง่าย,
  • ช่วยให้คุณสร้าง แผนที่ระดับสูง ของสิ่งที่สำคัญ

แต่ละรายการให้ คำจำกัดความสั้นๆ + ทำไมจึงสำคัญ
เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม คุณสามารถข้ามไปที่
บทความที่เกี่ยวข้อง (การเทรด...) ที่ระบุไว้สำหรับแต่ละหัวข้อ


1. แท่งเทียน (Candlesticks)

แท่งเทียน (หรือ Candle) แสดงข้อมูลสำหรับช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น 1 ชม., 4 ชม., 1 วัน):

  • ราคาเปิด (Open),
  • ราคาสูงสุด (High),
  • ราคาต่ำสุด (Low),
  • ราคาปิด (Close)

เป็น "แท่งเทียน" เดียวบนกราฟ
ดู พื้นฐานแท่งเทียน

ส่วนประกอบสำคัญ:

  • ตัวเทียน (Body): สี่เหลี่ยมผืนผ้าระหว่างราคาเปิดและราคาปิด,
  • ไส้เทียน/เงา (Wicks/Shadows): เส้นที่ลากไปยังราคาสูงสุดและต่ำสุด,
  • แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish): ราคาปิด > ราคาเปิด (แท่งสีเขียว/ขาว),
  • แท่งเทียนขาลง (Bearish): ราคาปิด < ราคาเปิด (แท่งสีแดง/ดำ)

แท่งเทียนช่วยให้คุณเห็น
วิธีการต่อสู้ของผู้ซื้อและผู้ขายในช่วงเวลานั้น
ได้ในพริบตา ดังนั้นจึงเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์กราฟส่วนใหญ่


2. แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance - S/R)

แนวรับ (Support):
โซนราคาที่ราคา หยุดร่วงลงซ้ำๆ
และเด้งกลับขึ้นไป ผู้ซื้อมีความแข็งแกร่งที่นั่น

แนวต้าน (Resistance):
โซนราคาที่ราคา ล้มเหลวในการขึ้นต่อซ้ำๆ
และกลับตัวลงมา ผู้ขายมีความแข็งแกร่งที่นั่น
ดู พื้นฐาน S/R

ในการเทรดจริง S/R ไม่ค่อยเป็นเส้นเดียว
การคิดในแง่ของ โซน นั้นสมจริงกว่า

ที่ S/R เทรดเดอร์มักจะคิดสองวิธี:


3. สวิง vs การปรับฐาน (Swings vs Corrections)

สวิง (Swing) คือการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่ง ในทิศทางของเทรนด์

การปรับฐาน (Correction) คือ การย่อตัวหรือการพักตัว หลังจากสวิงนั้น
ดู สวิง vs การปรับฐาน

ในเทรนด์ขาขึ้น (Uptrend) ตัวอย่างเช่น:

  • Upward swing: การเคลื่อนไหวขึ้นอย่างรวดเร็ว,
  • Downward correction: การลดลงชั่วคราวสวนทางกับเทรนด์ขาขึ้น

เราใส่ใจความแตกต่างนี้เพราะ:

  • สวิงมักจะเหมาะกับการเทรดแบบ ตามเทรนด์ (Trend-following),
  • การปรับฐานมักจะเหมาะกับการเทรดแบบ Mean-reversion / Pullback

4. อินดิเคเตอร์ (Indicators)

อินดิเคเตอร์ คือการคำนวณโดยอิงจาก
ข้อมูลราคาและ/หรือปริมาณการซื้อขาย (Volume),
ที่วาดบนหรือใต้กราฟ ดู อินดิเคเตอร์

หมวดหมู่กว้างๆ:

  • อินดิเคเตอร์เทรนด์ (Trend Indicators)
    อินดิเคเตอร์เทรนด์

    • Moving Average (MA):
      ราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด แสดงเป็นเส้น
      Moving Average
    • MACD:
      ใช้ความแตกต่างระหว่าง MA สองเส้นเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของเทรนด์
      และการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม
      MACD
    • Ichimoku Cloud:
      ระบบหลายเส้นที่รวมเทรนด์และ S/R เข้าด้วยกัน
      Ichimoku Cloud
  • ออสซิลเลเตอร์ (Oscillators)
    ออสซิลเลเตอร์

    • RSI:
      เปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นล่าสุด vs การลดลง
      เพื่อแสดงสภาวะ "Overbought/Oversold"
      RSI
  • อินดิเคเตอร์ความผันผวน (Volatility Indicators)
    อินดิเคเตอร์ความผันผวน

    • ATR (Average True Range):
      วัดช่วงราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่ง
      กล่าวคือ "ตลาดเคลื่อนไหวมากแค่ไหนในตอนนี้"
      ATR

อินดิเคเตอร์ไม่ได้มาแทนที่ราคา
มันเป็น เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณอ่านพฤติกรรมราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


5. รูปแบบ (Patterns)

รูปแบบ คือ รูปร่างหรือโครงสร้าง ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
ในการเคลื่อนไหวของราคา ดู รูปแบบ

สองกลุ่มหลัก:

  1. รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
    รูปแบบแท่งเทียน

    • Hammer, Shooting Star,
    • Engulfing, Doji, ฯลฯ
      เหล่านี้คือการก่อตัวของแท่งเทียน 1–3 แท่ง
      ที่บอกใบ้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในการควบคุม
  2. รูปแบบกราฟ (Chart Patterns)
    รูปแบบกราฟ

    โครงสร้างเหล่านี้ให้เบาะแสเกี่ยวกับ
    ว่าเทรนด์อาจจะดำเนินต่อไปหรือกลับตัว

แทนที่จะปฏิบัติต่อรูปแบบ
เหมือนเครื่องมือวิเศษที่ทำนายอนาคต
มันสมจริงกว่าที่จะมองว่ามันเป็น:

ภาพของจุดที่แรงซื้อ vs แรงขาย
กำลังก่อตัวหรือจางหายไป


6. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

การบริหารความเสี่ยง คือชุดของกฎและโครงสร้าง
ที่ป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำลายบัญชีของคุณ
ดู การบริหารความเสี่ยง

แนวคิดหลัก:

  • 1R (ความเสี่ยงต่อการเทรด)
    ความเสี่ยง/ผลตอบแทน

    • จำนวนเงินที่วางแผนไว้ที่คุณยอมเสียได้ ในการเทรดหนึ่งครั้ง
    • ตัวอย่าง: ด้วยบัญชี 10,000 USD,
      การเสี่ยง 1% ต่อการเทรดหมายความว่า 1R = 100 USD
  • R-Multiple

    • แสดงผลลัพธ์ในหน่วย "R": +2R, −1R, −0.5R, ฯลฯ
  • กฎการขาดทุนสูงสุด (Max Loss Rule)
    กฎการขาดทุนสูงสุด

    • การขาดทุนสูงสุดที่คุณอนุญาตสำหรับหนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์
    • ตัวอย่าง: −3R ต่อวัน, −8R ต่อสัปดาห์ → หยุดเทรดเมื่อถึงจุดนั้น
  • Drawdown
    Drawdown

    • เงินทุนของคุณลดลงจากจุดสูงสุดมากแค่ไหน ในหน่วย %
    • ทำหน้าที่เป็นมาตรวัดว่าระบบและจิตวิทยาของคุณสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้มากแค่ไหน

การบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับ
"ฉันจะชนะให้ใหญ่ที่สุดได้อย่างไร?" น้อยกว่า
"ฉันจะหลีกเลี่ยงการล้างพอร์ตได้อย่างไร?" มากกว่า


7. การเทรดในฐานะเกมแห่งความน่าจะเป็น

การเทรดคือ เกมแห่งความน่าจะเป็น
ดู ความน่าจะเป็นในการเทรด

  • ทุกระบบมีผู้ชนะและผู้แพ้
  • ไม่มีการตั้งค่าใดที่ได้ผล 100% ตลอดเวลา
  • สิ่งสำคัญคือ ผลลัพธ์โดยเฉลี่ย
    จากการเทรดจำนวนมาก

แนวคิดหลัก:

  • Win rate (อัตราการชนะ):
    เปอร์เซ็นต์ของการเทรดที่ชนะ
  • Average win / average loss:
    คุณมักจะได้รับกี่ R จากผู้ชนะ
    และเสียกี่ R จากผู้แพ้
  • Expectancy (ความคาดหวัง):
    (win rate × average win) − (loss rate × average loss)

เป้าหมายไม่ใช่ "การเทรดเดียวที่สมบูรณ์แบบ"
แต่เป็น ความได้เปรียบ (edge) ที่ดีที่ทำซ้ำหลายร้อยครั้ง
ด้วยความเสี่ยงที่สม่ำเสมอ


หากตอนนี้คุณมีความเข้าใจภาพรวมเกี่ยวกับ:

  • แท่งเทียน,
  • S/R,
  • สวิง vs การปรับฐาน,
  • อินดิเคเตอร์,
  • รูปแบบ,
  • การบริหารความเสี่ยง,
  • ความน่าจะเป็น,

ดังนั้นเมื่อคุณผ่าน:

คุณจะคิดได้ง่ายขึ้นว่า,
"ใช่แล้ว สิ่งนี้เชื่อมโยงกลับไปที่แนวคิดในอภิธานศัพท์นั้น"

อย่าลังเลที่จะกลับมาที่นี่ได้ตลอดเวลา
เพื่อทบทวนคำศัพท์,
และค่อยๆ เขียนแนวคิดเหล่านี้ใหม่
ด้วย คำพูดของคุณเอง เมื่อประสบการณ์ของคุณเติบโตขึ้น